Diode laser
Diode Laser เห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่
Diode Laser 1 session ใช้เวลานานแค่ไหน
Diode laser คืออะไร
Diode Laser เป็นการรักษาด้วยเลเซอร์ที่ช่วยกำจัดขนอย่างอ่อนโยนพร้อมปกป้องผิวหนัง การรักษาด้วย Diode เลเซอร์นี้เหมาะสำหรับผิวหนังทุกประเภท แต่ควรที่จะพิจารณาการทำการรักษานี้เมื่อได้รับคำแนะนำจากหมอผิวหนังที่มีประสบการณ์และความรู้ในการรักษา Diode Laser เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ในผู้ป่วยหลายคน สามารถกำจัดขนได้ในระยะยาว การรักษาสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีความรู้สึกเจ็บ
Diode Laser ทำงานยังไง
Diode Laser ทำงานโดยใช้หลักการที่เรียกว่า selective photothermolysis หมายความว่าแพทย์จะทำการจับคู่ความยาวคลื่นแสงและระยะเวลาการปล่อยพลังงานให้เข้ากับชนิดของผิวหนังที่จะรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สูงสุด เมลานิน (melanin) เป็นสารสีที่อยู่ในผิวหนังและขน ซึ่ง melanin นี่เองที่จะเป็นตัวดูดรับพลังงานจากเครื่อง Diode Laser เมื่อเมลานินในเส้นขนดูดความร้อนจากเลเซอร์ จะทำให้เกิดความเสียหายในเส้นขน ซึ่งจะยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขนในอนาคต จึงเป็นเหตุผลที่การรักษานี้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในผู้ที่มีผิวขาว (มีเมลานินน้อย) และขนสีดำ (มีเมลานินสูง)
ข้อดีของ Diode Laser คือ
1. Diode Laser ส่งแสงภายในช่วงที่มองเห็นได้ถึงแสงอินฟราเรด (~810 นาโนเมตร): เพื่อเน้นเซลล์สีเฉพาะ Diode Laser ทำงานได้ทั้งในผิวหนังสีสว่างและผิวหนังสีเข้ม เมื่อเทียบกับเลเซอร์อื่น ๆ ความยาวคลื่นของมันให้ความลึกที่สุดและการดูดซับเมลานินที่ดีกว่า คุณสมบัตินี้ทำให้ Diode Laser เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสำหรับการกำจัดขนด้วยเลเซอร์มากที่สุด ทำให้มีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับผิวหนังและขนทุกประเภท ทุกส่วนของร่างกาย
2. ลดขนอย่างถาวร: Diode Laser สามารถทำให้ขนหายไปถาวรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แทบจะไม่ต้องโกนขนอีกเลย
3. ลดขนคุด: ด้วยการกระตุ้นให้ขนเจริญในแนวตรง Diode Laser จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดขนคุด
4. เหมาะสมกับหลายสภาพผิว: Diode Laser เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว และสามารถปรับเปลี่ยนตามประเภทและโครงสร้างของผิว, สีขน, ความหนาของขน และปัจจัยอื่น ๆ แต่จะทำงานดีที่สุดสำหรับบุคคลที่มีผิวสีขาวและขนสีดำ
5. กระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของผิว: Diode Laser กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวหนังได้เร็วขึ้นเมื่อเซลล์ที่ตายร่วงลง
6. ทำตำแหน่งไหนบนร่างกายก็ได้: Diode Laser สามารถใช้กำจัดขนบริเวณใดก็ได้ที่ต้องการบนร่างกาย ยกเว้นบริเวณที่เป็นบริเวณอ่อนรอบดวงตา บริเวณที่มักนิยมทำกับคือรักแร้, หน้า, ขา, หลัง, bikini เป็นต้น
ข้อเสียของ Diode Laser คือ
Diode Laser มีขีดจำกัดในเรื่องความปลอดภัย แม้ว่าจะเกิดข้อผิดพลาดน้อยมาก โดยอาจทิ้งรอยสีน้ำตาลบนผิวหนังจากความเสียหายกับ melanin ในผิวหนังได้
Diode Laser เห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่
หลังทำจะพบว่าผิวนุ่มและขนหายไปบางส่วนหลังการรักษาครั้งแรก แต่คนไข้จะต้องทำการรักษาด้วยเลเซอร์หลายครั้งอีกเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นถาวร อย่างไรก็ตาม ขนอาจเจริญกลับมาเหมือนเดิมหลังจากการรักษาครั้งแรก แต่คนไข้จะเริ่มเห็นผลอย่างชักเจนหลังจากผ่านไปเวลาสามเดือนหากทำต่อเนื่อง การรักษาด้วย Diode Laser ต้องทำในชุดครั้งหลาย session เพื่อให้เกิดการลดขนอย่างถาวร สาเหตุคือขนเจริญขึ้นในสามขั้นตอน: ช่วง anagen (ช่วงการเจริญเติบโต), ช่วง telogen (ช่วงทับซ้อน), และช่วง catagen (ช่วงพัก) ซึ่งเหมือนกับเลเซอร์ทุกชนิด Diode Laser สามารถทำงานได้เฉพาะที่ขนที่อยู่ในช่วง anagen เท่านั้นเพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ขนมีเมลานินมากที่สุด ซึ่งเป็นสารสีที่จำเป็นในการดูดรับรังสีจากเลเซอร์ได้
Diode Laser 1 session ใช้เวลานานแค่ไหน
ระยะเวลาของแต่ละการรักษาจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยเช่น บริเวณและขนาดของบริเวณที่ต้องการรักษาหรือความหนา/ความแข็งของขน โดยเฉลี่ยบริเวณขนาดใหญ่บนร่างกาย เช่น หลัง, หน้าอก, ไหล่, หรือขา อาจใช้เวลาครึ่งชั่วโมงหรือนานกว่านั้น ในขณะที่บริเวณขนาดเล็ก เช่น ริมชายทะเล, ริมปากบน, คาง, หรือรักแร้อาจใช้เวลาเพียงห้าถึงสิบนาที จำนวนการรักษาและระยะห่างระหว่างการรักษาขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ ปัจจัย เช่น: ประเภทของผิว, สีของขน, ความหนาของขน. ความลึกของเส้นขน, ความหนาแน่นของขนทั่วไป, บริเวณที่ต้องการรักษา, ระดับฮอร์โมน
Diode Laser ต้องทำกี่ครั้ง
โดยทั่วไปแล้ว ส่วนใหญ่ของคนไข้จะต้องทำการรักษาด้วย Diode Laser อย่างน้อย 4-6 ครั้ง โดยระยะห่างระหว่างการรักษา จะอยู่ระหว่าง 6-10 สัปดาห์ นี้จะช่วยในการลดขนได้ราว 70-90%
Diode Laser VS IPL
IPL (Intense Pulsed Light) ทางเทคนิคไม่ใช่การรักษาด้วยเลเซอร์ แต่จะใช้แสงสเปกตรัมที่กว้างของแสงที่มีความยาวคลื่นหลายแบบ นั่นหมายความว่า IPL สร้างพลังงานที่การกระจายไปทั้งขนและผิวหนัง ผลคือการสูญเสียพลังงานมากและการดูดซับไปยังเส้นขนลดลง ซึ่งส่งผลให้การกำจัดขนไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร การใช้แสงคลื่นกว้างยังเพิ่มโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงเช่นการไหม้หรือการเปลี่ยนสีของผิวหนังได้มากขึ้น โดยเฉพาะถ้าไม่มีระบบระบายความร้อนรวมมาใช้ โดยทั่วไป IPL มักเหมาะกับผิวหนังสีสว่าง (ระดับ 1-3 ในสเกล Fitzpatrick) ดังนั้น ความแตกต่างระหว่างการกำจัดขนด้วย Diode Laser และ IPL คือวิธีการรักษาที่ได้แสดงไว้ข้างต้น โดยทั่วไป เทคโนโลยี IPL จะต้องการการรักษาที่บ่อยมากและใช้เวลานานขึ้น แต่สำหรับการกำจัดขนด้วย Diode Laser จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าและเจ็บน้อย ในขณะที่รักษาชนิด IPL จะต้องการเวลานานกว่าและมีข้อจำกัดในการรักษาผิวหนังและขนมากกว่า Diode Laser
